โรคอีสุกอีใส … ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน

โรคอีสุกอีใส … ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน

   โรคอีสุกอีใส … ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน  

🦠โรคอีสุกอีใสเกิดจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลา (Varicella Zoster Virus หรือ VZV)

🦠แพร่กระจายได้ด้วยการสัมผัสโดยตรง รวมทั้งผ่านทางละอองของน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ และน้ำที่อยู่ในตุ่มน้ำพองใส (airborne, droplet, contact)

🦠อาการ: ไข้ ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร ผื่นลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสขอบแดง ขึ้นบริเวณลำตัวและกระจายไปตามใบหน้า แขนขา ต่อมาตุ่มจะมีลักษณะคล้ายหนองและตกสะเก็ด และจะมีตุ่มใหม่เกิดต่อๆกันไป

🦠ภาวะแทรกซ้อน
-ติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติมที่ผิวหนังและเข้ากระแสเลือด
-ปอดอักเสบ
-สมองอักเสบ

🦠ใครบ้างที่ควรได้รับวัคซีน: วัคซีนนี้ให้ในคนที่ยังไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใส หรือไม่มีภูมิต้านทานต่อโรค
-เด็กโตและผู้ใหญ่ที่ยังไม่เคยเป็นอีสุกอีใส เนื่องจากอาการอาจรุนแรงกว่าเด็กเล็ก (ในผู้ใหญ่อาจเจาะเลือดตรวจว่ามีภูมิต้านทานโรคอยู่แล้วหรือไม่)
-บุคคลที่มีความเสี่ยงในการรับเชื้อและเป็นโรค และแพร่ไปยังผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น บุคลากรทางการแพทย์, ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกับผู้ที่มีภาระภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น

🦠เด็กปกติที่ยังไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน หากมีความประสงค์จะป้องกันโรคนี้ สามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป
ในเด็กอายุ 1-12 ปี แนะนำให้ฉีด 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 3 เดือน
อายุเกิน 13 ปีขึ้นไป แนะนำให้ฉีด 2 เข็มห่างกันอย่างน้อย 1 เดือน

🦠วัคซีนนี้ไม่รวมอยู่ในแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคสำหรับเด็กทั่วไป แต่ควรแนะนำให้ฉีดวัคซีนในเด็กปกติทุกรายที่สามารถออกค่าใช้จ่ายได้ เพราะวัคซีนสามารถป้องกันโรคงูสวัดได้ด้วย